คุณสมบัติ

ใบเจียและใบตัดเป็นแผ่นวงกลมที่ผลิตจากเม็ดทรายที่มีความแข็งสูง เช่น อะลูมิเนียมออกไซด์ หรือซิลิคอนคาร์ไบด์ ยึดติดกันด้วยสารยึดเกาะ แล้วนำมาเสริมแรงด้วยเส้นใยไฟเบอร์กลาส เพื่อความแข็งแรงและปลอดภัย

1. ใบเจีย (Grinding Disc): สำหรับงานเจียร ขัด ลบคม

• คุณสมบัติ: โดยทั่วไปจะมีขนาดความหนามากกว่าใบตัด (ประมาณ 3-7 มม. ขึ้นไป) มีผิวหน้าหยาบ ออกแบบมาเพื่อการขัด เจียร ลบคม ลบรอยเชื่อม หรือปรับแต่งพื้นผิวโลหะให้เรียบเนียน มีทั้งใบเจียรเหล็ก (สำหรับเหล็กทั่วไป) และใบเจียรสเตนเลส (สำหรับสเตนเลสและโลหะผสม)
• การใช้งาน: ใช้กับเครื่องเจียรลูกหมู (Angle Grinder) โดยต้องติดตั้งให้ถูกทิศทางและสวมอุปกรณ์ป้องกันเสมอ นิยมใช้ในงานลบรอยเชื่อม, ลบครีบคมของชิ้นงาน, ปรับแต่งรูปทรงโลหะ, หรือขัดสนิมบนพื้นผิว

2. ใบตัด (Cutting Disc): สำหรับงานตัดโลหะโดยเฉพาะ

• คุณสมบัติ: มีความบางกว่าใบเจียรอย่างเห็นได้ชัด (ประมาณ 1-2.5 มม.) ออกแบบมาเพื่อการตัดโลหะให้ขาดออกจากกันอย่างรวดเร็วและแม่นยำ มีทั้งใบตัดเหล็ก (สำหรับเหล็กทั่วไป) และใบตัดสเตนเลส (สำหรับสเตนเลสและโลหะผสม) บางชนิดถูกออกแบบมาเพื่อการตัดวัสดุพิเศษ เช่น อะลูมิเนียม หรือท่อ PVC
• การใช้งาน: ใช้กับเครื่องเจียรลูกหมู (Angle Grinder) สำหรับการตัดชิ้นงานขนาดเล็กถึงกลาง หรือใช้กับเครื่องตัดไฟเบอร์ (Chop Saw) สำหรับการตัดเหล็กรูปพรรณขนาดใหญ่ นิยมใช้ในงานตัดเหล็กเส้น, เหล็กกล่อง, ท่อ, แผ่นเหล็ก, หรือการตัดเพื่อเตรียมชิ้นงาน

ข้อควรรู้ในการเลือกใช้และข้อควรระวัง:

• ประเภทวัสดุ: ต้องเลือกใบให้ตรงกับประเภทโลหะที่ต้องการเจียรหรือตัด (เหล็กทั่วไป หรือสเตนเลส) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งาน
• ขนาดและความหนา: เลือกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (เช่น 4 นิ้ว, 7 นิ้ว, 14 นิ้ว) และความหนาให้เหมาะสมกับเครื่องมือและลักษณะงาน
• ความเร็วรอบ: ตรวจสอบความเร็วรอบสูงสุดที่ระบุบนใบให้เหมาะสมกับเครื่องมือที่ใช้เสมอ
• ความปลอดภัย: สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลทุกครั้งที่ใช้งาน (แว่นตานิรภัย, ถุงมือ, หน้ากากกันฝุ่น) และตรวจสอบใบว่าไม่ชำรุดก่อนใช้งาน

ทำไมคุณภาพของใบเจียและใบตัดจึงสำคัญ?

การเลือกใช้ใบเจียและใบตัดที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพงาน ความปลอดภัย และค่าใช้จ่าย:

• อันตรายต่อผู้ใช้งาน: ใบเจียหรือใบตัดคุณภาพต่ำ มีความเปราะบาง อาจแตกหักหรือระเบิดระหว่างการใช้งานด้วยความเร็วสูง ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อผู้ใช้งาน
• ประสิทธิภาพการทำงานต่ำ: ใบที่ทื่อเร็ว หรือกัดกินชิ้นงานได้ไม่ดี จะทำให้งานล่าช้า ต้องออกแรงมาก และสิ้นเปลืองทั้งใบเจีย/ใบตัด และเวลา
• ชิ้นงานเสียหาย: ใบที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดรอยไหม้บนชิ้นงาน ตัดไม่ตรง หรือเกิดเศษโลหะกระเด็นมากผิดปกติ ทำให้ชิ้นงานเสียหาย
• สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย: ใบคุณภาพต่ำจะหมดเร็ว หรือเสียหายง่าย ทำให้ต้องซื้อเปลี่ยนบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น

ดังนั้น การลงทุนกับใบเจียและใบตัดคุณภาพสูงจึงเป็นการลงทุนเพื่อประสิทธิภาพการทำงาน ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง