ลวดเชื่อม

สอบถามรายละเอียด และขอใบเสนอราคา
ทีมงานพร้อมให้บริการทุกวัน

02-543-2544 094-548-9166 065-993-2879 Line @vipasteel

ลวดเชื่อม

ในทุกงานที่เกี่ยวข้องกับการต่อโลหะ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคาร งานอุตสาหกรรม การผลิตเครื่องจักร หรือแม้แต่งานฝีมือทั่วไป ลวดเชื่อม (Welding Electrode / Welding Wire) คือวัสดุสิ้นเปลืองที่สำคัญที่สุดและเป็นหัวใจหลักในการสร้างรอยต่อที่แข็งแรงและทนทาน ลวดเชื่อมที่ดีจะช่วยให้ช่างสามารถสร้างรอยเชื่อมที่สมบูรณ์แบบ มีคุณสมบัติทางกลที่ตอบโจทย์ และมีอายุการใช้งานยาวนาน การเลือกใช้ลวดเชื่อมที่ถูกต้องตามประเภทโลหะ ชนิดงาน และมีคุณภาพสูง ได้มาตรฐาน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แข็งแรง ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ และนี่คือสิ่งที่ วิภาค้าเหล็ก มุ่งมั่นที่จะส่งมอบลวดเชื่อมคุณภาพเยี่ยมหลากหลายชนิดให้กับลูกค้าทุกราย

ลวดเชื่อม 2.6

รายละเอียด ราคาขาย
โกเบ ขาว 165
โกเบ แดง 180
ยาวาต้า เชื่อมกาวาไนส์ 165

ลวดเชื่อม 3.2

รายละเอียด ราคาขาย
โกเบ ขาว 416
โกเบ แดง 446

ลวดเชื่อม 4.0

รายละเอียด ราคาขาย
โกเบ ขาว

หมายเหตุ :

  • ราคา ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2568
  • ราคาบนเว็บไซต์เป็นสกุล บาทไทย (THB)

*ราคาอาจะมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อแอดมินเพื่อเช็คราคาสินค้า*

คุณสมบัติ

ลวดเชื่อมมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับกระบวนการเชื่อมและชนิดของโลหะที่ต้องการเชื่อม:

1. ลวดเชื่อมไฟฟ้า (Shielded Metal Arc Welding – SMAW / Stick Welding):
เป็นลวดเชื่อมที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับงานเชื่อมทั่วไปและงานโครงสร้าง มักเรียกว่า “ลวดเชื่อมธูป” หรือ “ลวดเชื่อมแกนฟลักซ์”

  • คุณสมบัติ: ประกอบด้วยแกนโลหะ (Core Wire) และสารพอกหุ้ม (Flux Coating) ที่จะหลอมละลายพร้อมแกนโลหะ สร้างก๊าซปกคลุมบ่อหลอม ป้องกันการปนเปื้อนจากบรรยากาศ และสร้างสแลกปกคลุมรอยเชื่อมหลังแข็งตัว มีหลายประเภทตามคุณสมบัติของฟลักซ์ (เช่น E6013 สำหรับงานทั่วไป, E7016/E7018 สำหรับเหล็กเหนียวแรงดึงสูง)
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับเชื่อมเหล็กโครงสร้าง, เหล็กทั่วไป, งานซ่อมบำรุง, และงานเชื่อมในพื้นที่เปิดหรือกลางแจ้ง เนื่องจากมีความทนทานต่อลมและกระแสลมได้ดี

2. ลวดเชื่อมมิก (Gas Metal Arc Welding – GMAW / MIG Welding):
เป็นลวดเชื่อมเปลือยที่ใช้ร่วมกับก๊าซปกคลุม (Shielding Gas)

  • คุณสมบัติ: เป็นลวดเส้นต่อเนื่อง บรรจุในม้วนใหญ่ เมื่อเชื่อมจะป้อนลวดออกมาอย่างต่อเนื่อง และใช้ก๊าซเฉื่อย (เช่น อาร์กอน) หรือก๊าซผสม (เช่น คาร์บอนไดออกไซด์+อาร์กอน) ปกคลุมแนวเชื่อม ทำให้เกิดรอยเชื่อมที่สะอาดและสวยงาม
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานเชื่อมเหล็กบาง, เหล็กกล้าคาร์บอน, สเตนเลส, และอลูมิเนียม ที่ต้องการความรวดเร็วในการเชื่อมสูง และรอยเชื่อมที่เรียบเนียน นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์, เฟอร์นิเจอร์, และโครงสร้างเบา

3. ลวดเชื่อมทิก (Gas Tungsten Arc Welding – GTAW / TIG Welding):
เป็นการเชื่อมที่ใช้ลวดเติม (Filler Rod) แยกต่างหากจากอิเล็กโทรดทังสเตน

  • คุณสมบัติ: ลวดเชื่อมทิกเป็นลวดเปลือย มีหลายประเภทตามชนิดโลหะที่ต้องการเชื่อม (เช่น ER70S-6 สำหรับเหล็ก, ER308L สำหรับสเตนเลส) ต้องใช้ร่วมกับก๊าซเฉื่อย (เช่น อาร์กอน) บริสุทธิ์
  • การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานเชื่อมที่ต้องการความละเอียดสูงสุด, รอยเชื่อมที่สวยงามเป็นพิเศษ, และงานเชื่อมโลหะบาง หรือโลหะพิเศษ เช่น สเตนเลส, อลูมิเนียม, ไทเทเนียม, มักใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร, ยา, และการบิน

คุณสมบัติสำคัญของลวดเชื่อมที่ดี:

  • คุณภาพของโลหะเชื่อม: ต้องมีส่วนผสมทางเคมีและคุณสมบัติทางกลที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้รอยเชื่อมมีความแข็งแรง ไม่เปราะ ไม่เกิดการแตกร้าว
  • ความสม่ำเสมอ: ลวดเชื่อมควรมีขนาดและคุณสมบัติที่สม่ำเสมอตลอดทั้งเส้น เพื่อให้การอาร์คคงที่และได้รอยเชื่อมที่สม่ำเสมอ
  • การควบคุมสแลก/ก๊าซ: สำหรับลวดเชื่อมไฟฟ้า สแลกต้องหลุดร่อนง่าย และก๊าซต้องปกคลุมได้ดี ส่วนลวดเชื่อมมิก/ทิก ก๊าซปกคลุมต้องบริสุทธิ์และเพียงพอ
  • การเก็บรักษา: ลวดเชื่อมควรถูกเก็บรักษาในบรรจุภัณฑ์ที่ป้องกันความชื้น เพื่อรักษาคุณภาพของฟลักซ์หรือเนื้อลวด

ทำไมคุณภาพของลวดเชื่อมจึงสำคัญที่สุดต่อความแข็งแรงและความปลอดภัย?

การเลือกใช้ลวดเชื่อมที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือไม่เหมาะสมกับประเภทงาน อาจนำมาซึ่งผลกระทบที่ร้ายแรงและค่าใช้จ่ายมหาศาล:

  • รอยเชื่อมไม่แข็งแรง/แตกร้าว: ลวดเชื่อมคุณภาพต่ำอาจมีสิ่งเจือปน หรือมีคุณสมบัติทางเคมีไม่เหมาะสม ทำให้รอยเชื่อมไม่แข็งแรง เปราะง่าย หรือเกิดการแตกร้าวหลังการเชื่อม ซึ่งเป็นอันตรายต่อโครงสร้าง
  • โครงสร้างวิบัติ: ในงานที่ต้องรับน้ำหนักหรือแรงกระทำสูง หากรอยเชื่อมไม่แข็งแรงตามที่ออกแบบไว้ อาจนำไปสู่การพังทลายของโครงสร้าง ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน
  • งานไม่สวยงาม/มีตำหนิ: ลวดเชื่อมคุณภาพต่ำอาจทำให้เกิดการกระเด็นของสะเก็ดไฟมาก, รอยเชื่อมเป็นฟองอากาศ (Porosity), หรือเกิดการซึมลึกไม่พอ ทำให้รอยเชื่อมไม่สวยงาม และไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
  • สิ้นเปลืองเวลาและต้นทุน: การต้องแก้ไขงานเชื่อม, ขัดเจียรเพื่อทำใหม่, หรือต้องซื้อลวดเชื่อมเพิ่ม เนื่องจากลวดเดิมไม่ได้คุณภาพ ล้วนเป็นการเพิ่มต้นทุนและเสียเวลาทำงาน
  • ผลกระทบทางกฎหมายและชื่อเสียง: การใช้ลวดเชื่อมที่ไม่ได้มาตรฐานในงานโครงสร้างสำคัญอาจนำมาซึ่งปัญหาทางกฎหมาย และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการ

ดังนั้น การลงทุนกับลวดเชื่อมคุณภาพสูงและได้มาตรฐานจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ความทนทาน และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง