ไวด์แฟรงค์

สอบถามรายละเอียด และขอใบเสนอราคา
ทีมงานพร้อมให้บริการทุกวัน

02-543-2544 094-548-9166 065-993-2879 Line @vipasteel

ไวด์แฟรงค์

ในยุคแห่งการก่อสร้างและพัฒนาที่ต้องการโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพสูง แข็งแรงทนทาน และลดเวลาการทำงานหน้าไซด์งาน เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide Flange) คือคำตอบที่วิศวกรและสถาปนิกทั่วโลกเลือกใช้ ด้วยรูปทรงหน้าตัดคล้ายตัว “H” ที่มีปีกกว้างและขนานกัน ทำให้เหล็กชนิดนี้มีคุณสมบัติในการรับแรงและน้ำหนักได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายและประหยัดต้นทุนในระยะยาว เหล็กไวด์แฟรงค์ไม่ได้เป็นเพียงวัสดุก่อสร้างธรรมดา แต่คือหัวใจสำคัญที่มอบความมั่นคงและยั่งยืนให้กับโครงสร้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และนี่คือสิ่งที่ วิภาค้าเหล็ก

ไวด์แฟรงค์

ขนาด (นิ้ว) ขนาด (มม.) หนา (mm.) หนัก (kg.) ราคาขาย
100 x 50 56.0 1,696
150x 75 84.0 2,556
148 x 100 127.0 4,316
175 x 90 109.0
200 x 100 128.0 3,896
194 x 150 184.0 6,256
250 x 125 178.0 5,396
244 x 175 265.0
300 x 150 220.0 8,446
294 x 200 341.0 12,060
350 x 175 298.0 11,416
340 x 250 478.0 17,576
400 x 200 369.0 15,486
390 x 300 642.0 23,616
450 x 200 456.0
440 x 300 744.0
500 x 200 537.0
488 x 300 768.0
600 x 200 636.0
588 x 300 906.0
594 x 302 1,050-
700 x 300 1,110

หมายเหตุ :

  • ราคา ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2568
  • ราคาบนเว็บไซต์เป็นสกุล บาทไทย (THB)

*ราคาอาจะมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อแอดมินเพื่อเช็คราคาสินค้า*

คุณสมบัติ

เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide Flange) เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot Rolled Structural Steel) ที่มีหน้าตัดคล้ายตัว “H” โดยมีลักษณะเด่นคือ ปีก (Flange) ที่กว้างและขนานกัน ตลอดความยาวของเหล็ก ซึ่งแตกต่างจากเหล็กเอชบีมและไอบีมในรุ่นเก่า ที่ปีกมักจะสอบหรือไม่ขนานกัน คุณสมบัติสำคัญของเหล็กไวด์แฟรงค์คือ:

  • ความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ: ด้วยพื้นที่หน้าตัดที่กว้างกว่าและรูปทรงที่สมมาตร ทำให้เหล็กไวด์แฟรงค์มีความสามารถในการรับแรงดัด (Bending Strength) และแรงเฉือน (Shear Strength) ได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมาก และต้องการความมั่นคงสูง
  • รับแรงอัดและแรงดึงอย่างสมดุล: รูปทรงตัว H ที่มีปีกกว้างเท่ากันช่วยให้กระจายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นวัสดุที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งเสาและคานหลัก
  • ประหยัดและคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับความสามารถในการรับแรง เหล็กไวด์แฟรงค์มักจะมีน้ำหนักที่เหมาะสม ทำให้ช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ติดตั้ง และค่าฐานรากของอาคารลงได้
  • ลดเวลาในการก่อสร้าง: การใช้เหล็กไวด์แฟรงค์ที่เป็นเหล็กสำเร็จรูป ทำให้งานโครงสร้างสามารถประกอบ เชื่อม หรือติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในโครงการขนาดใหญ่
  • เชื่อมต่อได้ง่าย: ด้วยปีกที่ขนานกัน ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างชิ้นส่วนทำได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น
  • หลากหลายขนาด: มีขนาดและความหนาให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับการออกแบบโครงสร้างและข้อกำหนดทางวิศวกรรมที่แตกต่างกัน

การใช้งานเหล็กไวด์แฟรงค์ในงานก่อสร้างและอุตสาหกรรม

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและประสิทธิภาพสูง ทำให้เหล็กไวด์แฟรงค์เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในงานที่ต้องการความแข็งแรงและความรวดเร็ว:

  • โครงสร้างอาคารสูงและขนาดใหญ่: ใช้เป็นเสาและคานหลักของอาคารสำนักงาน, คอนโดมิเนียม, โรงแรม, ศูนย์การค้า, และสนามกีฬา
  • โครงสร้างโรงงานและโกดังสินค้า: เป็นวัสดุหลักในการสร้างโครงสร้างโรงงานอุตสาหกรรม, โกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่, และโครงหลังคาที่ต้องการช่วงกว้าง
  • โครงสร้างสะพานและโครงสร้างพื้นฐาน: ใช้ในงานก่อสร้างสะพาน, โครงสร้างยกระดับ, และโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานสูง
  • โครงสร้างรองรับเครื่องจักร: ใช้เป็นโครงสร้างรองรับเครื่องจักรขนาดใหญ่, แท่นขุดเจาะ, หรือโครงสร้างสำหรับเครนและระบบลำเลียง
  • งานโครงสร้างพิเศษ: สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโครงสร้างเหล็กรูปพรรณอื่นๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและรวดเร็วในการก่อสร้าง

ทำไมคุณภาพของเหล็กไวด์แฟรงค์จึงสำคัญที่สุดต่อความปลอดภัยของโครงสร้าง?

การเลือกใช้เหล็กไวด์แฟรงค์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ถูกต้องตามสเปก อาจนำมาซึ่งผลกระทบที่ร้ายแรงและค่าใช้จ่ายมหาศาล:

  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยร้ายแรง: เหล็กไวด์แฟรงค์คุณภาพต่ำอาจมีคุณสมบัติทางเคมีหรือทางกลที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น มีความแข็งแรงไม่ถึงเกณฑ์ มีตำหนิภายใน หรือโครงสร้างบิดเบี้ยว ซึ่งจะลดความสามารถในการรับแรงอย่างรุนแรง เสี่ยงต่อการแตกร้าว ทรุดตัว หรือการพังทลายของโครงสร้างขนาดใหญ่ในที่สุด
  • อายุการใช้งานที่สั้นลง: เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานจะเสื่อมสภาพ เกิดสนิม หรือเกิดการล้า (Fatigue) ได้เร็วกว่าปกติ ทำให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานสั้นลง และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเสริมความแข็งแรงมหาศาล
  • ความคลาดเคลื่อนในการก่อสร้าง: หากเหล็กไวด์แฟรงค์ไม่ได้ขนาดหรือมีรูปทรงที่บิดเบี้ยว จะส่งผลให้การติดตั้งทำได้ยาก เกิดความคลาดเคลื่อนในโครงสร้าง ส่งผลต่อความแม่นยำของงาน และอาจต้องแก้ไขซึ่งเสียเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างมาก
  • ผลกระทบทางกฎหมายและชื่อเสียง: การใช้เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานในโครงการขนาดใหญ่อาจนำมาซึ่งปัญหาทางกฎหมายอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการ

ดังนั้น การลงทุนกับเหล็กไวด์แฟรงค์คุณภาพสูงและได้มาตรฐานจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ความยั่งยืน และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง