คุณสมบัติ

ซีลาย คือเหล็กรูปตัว C ที่ถูกรีดขึ้นรูปเย็นจากแผ่นเหล็กเคลือบสังกะสี (Galvanized Steel) หรือเหล็กดำ มีคุณสมบัติและประโยชน์เด่นดังนี้:

• น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง: แม้จะมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กโครงสร้างทั่วไป แต่ซีลายมีความแข็งแรงเพียงพอที่จะรองรับแผ่นยิปซัม แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือวัสดุผนังเบาอื่นๆ ได้อย่างมั่นคง
• ทนทานต่อสนิม: ซีลายส่วนใหญ่ผลิตจากเหล็กเคลือบสังกะสี ทำให้ทนทานต่อการเกิดสนิมและการกัดกร่อนได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคาร หรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่สัมผัสความชื้นโดยตรง
• ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: ด้วยรูปทรงที่เป็นมาตรฐาน และมีน้ำหนักเบา ทำให้การติดตั้งซีลายทำได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและค่าแรงในการก่อสร้าง
• เป็นโครงสร้างสำหรับยึดวัสดุ: ใช้เป็นโครงคร่าวหลักสำหรับยึดแผ่นยิปซัมบอร์ด แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ หรือวัสดุผนังและฝ้าอื่นๆ ทำให้การติดตั้งวัสดุเหล่านี้เป็นไปอย่างเรียบร้อยและแข็งแรง
• หลากหลายขนาด: มีขนาดความกว้าง ความสูง และความหนาให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทของฝ้าเพดาน ผนังเบา หรือการใช้งานอื่นๆ ที่แตกต่างกัน

การใช้งานซีลายในงานก่อสร้าง

ซีลายนิยมใช้เป็นโครงคร่าวในงานต่างๆ ดังนี้:

• โครงคร่าวฝ้าเพดาน: เป็นการใช้งานหลักของซีลาย โดยจะใช้เป็นโครงสร้างหลักในการแขวนและยึดแผ่นยิปซัมบอร์ดหรือแผ่นฝ้าชนิดอื่นๆ เพื่อสร้างฝ้าเพดานที่เรียบเนียนและสวยงาม
• โครงคร่าวผนังเบา: ใช้เป็นโครงสร้างสำหรับผนังกั้นห้องที่สร้างจากแผ่นยิปซัมบอร์ด หรือแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ เพื่อแบ่งพื้นที่ใช้สอยในอาคารได้อย่างรวดเร็วและประหยัด
• โครงสร้างรองรับเบา: อาจใช้เป็นโครงสร้างรองรับสำหรับงานตกแต่ง, ชั้นวางของที่ไม่ได้รับน้ำหนักมาก, หรือโครงสร้างอื่นๆ ที่ต้องการความเบาและติดตั้งง่าย

ทำไมคุณภาพของซีลายจึงสำคัญ?

การเลือกใช้ซีลายที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจนำมาซึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพงาน ความปลอดภัย และค่าใช้จ่ายในระยะยาว:

• ฝ้า/ผนังทรุดตัวหรือแตกร้าว: หากซีลายมีคุณภาพต่ำ บิดงอง่าย หรือไม่สามารถรับน้ำหนักของแผ่นฝ้าหรือผนังได้ จะทำให้โครงสร้างฝ้าหรือผนังเกิดการโก่งตัว ทรุดตัว หรือแตกร้าว ซึ่งเป็นอันตรายและทำให้งานเสียหาย
• เกิดสนิมเร็วกว่ากำหนด: ซีลายที่ไม่ได้เคลือบสังกะสี หรือเคลือบมาอย่างไม่ได้มาตรฐาน จะเกิดสนิมได้ง่ายเมื่อสัมผัสความชื้น ทำให้โครงสร้างอ่อนแอและมีอายุการใช้งานสั้นลง
• ติดตั้งยาก/เสียเวลา: ซีลายที่บิดเบี้ยว ไม่ได้ขนาด หรือมีผิวไม่เรียบ จะทำให้การติดตั้งทำได้ยาก เสียเวลา และอาจต้องเสียซีลายไปโดยเปล่าประโยชน์
• ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง: การที่ฝ้าหรือผนังเสียหายเนื่องจากซีลายไม่ได้คุณภาพ จะนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่ไม่จำเป็น รวมถึงค่าแรงงานและเวลา

ดังนั้น การลงทุนกับซีลายคุณภาพสูงจึงเป็นการลงทุนเพื่อความแข็งแรง ความปลอดภัย และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง