สอบถามรายละเอียด และขอใบเสนอราคา
ทีมงานพร้อมให้บริการทุกวัน
ไอบีม
โครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด เหล็กไอบีม (I-Beam) คือพระเอกตัวจริงที่ขาดไม่ได้ ด้วยรูปทรงหน้าตัดคล้ายตัว “I” ที่มีปีกแคบและลาดเอียงเล็กน้อย ทำให้เหล็กชนิดนี้มีคุณสมบัติโดดเด่นในการรับแรงและน้ำหนักได้อย่างมหาศาล เป็นวัสดุหลักที่วิศวกรและผู้รับเหมาเลือกใช้ในการสร้างโครงสร้างที่ต้องการความมั่นคงสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างสะพาน การเลือกใช้เหล็กไอบีมที่มีคุณภาพสูงและได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และนี่คือสิ่งที่ วิภาค้าเหล็ก มุ่งมั่นที่จะส่งมอบแต่เหล็กไอบีมคุณภาพเยี่ยมให้กับลูกค้าทุกราย
ไอบีม
| ขนาด (mm.) | หนัก (kg.) | ราคาขาย |
| 100 x 50 | – | – |
| 100 x 75 | – | – |
| 125 x 75 | – | – |
| 150 x 75 | – | – |
| 150 x 125 | – | – |
| 180 x 100 | – | – |
| 200 x 100 | – | – |
| 200 x 150 | – | – |
| 250 x 125 | – | – |
| – | – | |
| 300 x 150 | – | – |
| – | – | |
| – | – | |
| – | – | |
| – | – | |
| 400 x 150 | – | – |
| – | – | |
| 450 x 175 | – | – |
| – | – | |
| 500 x 190 | – | – |
| – | – | |
| 600 x 190 | – | – |
| – | – |
คุณสมบัติ
เหล็กไอบีม (I-Beam) เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot Rolled Structural Steel) ที่มีหน้าตัดคล้ายตัว “I” โดยมีขนาดปีก (Flange) ที่แคบกว่าเหล็กเอชบีม และมักจะมีลักษณะลาดเอียงเล็กน้อยที่บริเวณปีกด้านใน คุณสมบัติทางกลที่โดดเด่นของเหล็กไอบีมคือ:
- ความแข็งแรงสูง: รูปทรงตัว I ช่วยให้เหล็กไอบีมสามารถรับแรงอัด แรงดึง และแรงเฉือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในทิศทางเดียว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำเสาและคานหลักที่ต้องรองรับน้ำหนักมหาศาล
- รับแรงดัดได้ดีเยี่ยม: เหล็กไอบีมมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมในการรับแรงดัด (Bending Strength) ทำให้เหมาะสำหรับใช้เป็นคานและเสาในโครงสร้างต่างๆ
- น้ำหนักเบาเมื่อเทียบกับความแข็งแรง: แม้จะมีความแข็งแรงสูง แต่ด้วยรูปทรงที่เป็นโพรงตรงกลาง ทำให้มีน้ำหนักเบากว่าการใช้เหล็กตันในปริมาณที่ให้ความแข็งแรงเท่ากัน ช่วยลดภาระโครงสร้างและประหยัดค่าใช้จ่ายในการขนส่งและติดตั้ง
- ลดเวลาในการก่อสร้าง: เนื่องจากเป็นเหล็กสำเร็จรูป จึงสามารถนำไปเชื่อม ตัด หรือประกอบหน้างานได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและแรงงาน
- หลากหลายขนาด: มีขนาดและความหนาให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับการออกแบบโครงสร้างและการรับน้ำหนักที่แตกต่างกันไป
การใช้งานเหล็กไอบีมในงานก่อสร้างและอุตสาหกรรม
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ทำให้เหล็กไอบีมเป็นที่นิยมอย่างยิ่งในงานที่ต้องการความแข็งแรงสูงสุด:
- โครงสร้างอาคารและโรงงาน: ใช้เป็นเสาและคานหลักของอาคารสูง, โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่, โกดังสินค้า, ศูนย์การค้า และอาคารสาธารณะต่างๆ
- โครงสร้างสะพาน: เป็นวัสดุสำคัญในการก่อสร้างโครงสร้างสะพานและโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ต้องการความทนทานต่อแรงมหาศาล
- โครงสร้างรองรับน้ำหนัก: ใช้เป็นโครงสร้างรองรับเครื่องจักรขนาดใหญ่, แท่นขุดเจาะ, หรือโครงสร้างสำหรับเครนและลิฟต์ขนส่ง
- งานฐานราก: ใช้เป็นเสาเข็มเหล็ก (Steel Pile) ในงานฐานราก เพื่อรองรับน้ำหนักและเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง
- งานโครงสร้างทั่วไป: สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโครงสร้างเหล็กอื่น ๆ ที่ต้องการความแข็งแรงสูงและรวดเร็วในการก่อสร้าง
ทำไมคุณภาพของเหล็กไอบีมจึงสำคัญที่สุดต่อความปลอดภัยของโครงสร้าง?
การเลือกใช้เหล็กไอบีมที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ถูกต้องตามสเปก อาจนำมาซึ่งผลกระทบที่ร้ายแรงและค่าใช้จ่ายมหาศาล:
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: เหล็กไอบีมคุณภาพต่ำอาจมีคุณสมบัติทางเคมีหรือทางกลที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น มีความเปราะบาง จุดครากต่ำ หรือมีตำหนิภายใน ซึ่งจะลดความสามารถในการรับแรงอย่างรุนแรง เสี่ยงต่อการแตกร้าว ทรุดตัว หรือการพังทลายของโครงสร้างในอนาคต
- อายุการใช้งานที่สั้น: เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานจะเสื่อมสภาพ เกิดสนิม หรือเกิดการล้า (Fatigue) ได้เร็วกว่าปกติ ทำให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานสั้นลง และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเสริมความแข็งแรงบ่อยครั้ง
- ความคลาดเคลื่อนในการก่อสร้าง: หากเหล็กไอบีมไม่ได้ขนาดหรือมีรูปทรงที่บิดเบี้ยว จะส่งผลให้การติดตั้งทำได้ยาก เกิดความคลาดเคลื่อนในโครงสร้าง และอาจต้องแก้ไขซึ่งเสียเวลาและค่าใช้จ่าย
- ผลกระทบทางกฎหมายและชื่อเสียง: การใช้เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานอาจนำมาซึ่งปัญหาทางกฎหมาย และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการ
ดังนั้น การลงทุนกับเหล็กไอบีมคุณภาพสูงและได้มาตรฐานจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ความยั่งยืน และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง

