
สอบถามรายละเอียด และขอใบเสนอราคา
ทีมงานพร้อมให้บริการทุกวัน
ไวด์แฟรงค์
ในยุคแห่งการก่อสร้างและพัฒนาที่ต้องการโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพสูง แข็งแรงทนทาน และลดเวลาการทำงานหน้าไซด์งาน เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide Flange) คือคำตอบที่วิศวกรและสถาปนิกทั่วโลกเลือกใช้ ด้วยรูปทรงหน้าตัดคล้ายตัว “H” ที่มีปีกกว้างและขนานกัน ทำให้เหล็กชนิดนี้มีคุณสมบัติในการรับแรงและน้ำหนักได้อย่างมหาศาล อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายและประหยัดต้นทุนในระยะยาว เหล็กไวด์แฟรงค์ไม่ได้เป็นเพียงวัสดุก่อสร้างธรรมดา แต่คือหัวใจสำคัญที่มอบความมั่นคงและยั่งยืนให้กับโครงสร้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และนี่คือสิ่งที่ วิภาค้าเหล็ก
ไวด์แฟรงค์
ขนาด (นิ้ว) | ขนาด (มม.) | หนา (mm.) | หนัก (kg.) | ราคาขาย |
100 x 50 | – | – | 56.0 | 1,696 |
150x 75 | – | – | 84.0 | 2,556 |
148 x 100 | – | – | 127.0 | 4,316 |
175 x 90 | – | – | 109.0 | – |
200 x 100 | – | – | 128.0 | 3,896 |
194 x 150 | – | – | 184.0 | 6,256 |
250 x 125 | – | – | 178.0 | 5,396 |
244 x 175 | – | – | 265.0 | – |
300 x 150 | – | – | 220.0 | 8,446 |
294 x 200 | – | – | 341.0 | 12,060 |
350 x 175 | – | – | 298.0 | 11,416 |
340 x 250 | – | – | 478.0 | 17,576 |
400 x 200 | – | – | 369.0 | 15,486 |
390 x 300 | – | – | 642.0 | 23,616 |
450 x 200 | – | – | 456.0 | – |
440 x 300 | – | – | 744.0 | – |
500 x 200 | – | – | 537.0 | – |
488 x 300 | – | – | 768.0 | – |
600 x 200 | – | – | 636.0 | – |
588 x 300 | – | – | 906.0 | – |
594 x 302 | – | – | 1,050- | – |
700 x 300 | – | – | 1,110 | – |
หมายเหตุ :
- ราคา ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2568
- ราคาบนเว็บไซต์เป็นสกุล บาทไทย (THB)
*ราคาอาจะมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อแอดมินเพื่อเช็คราคาสินค้า*
คุณสมบัติ
เหล็กไวด์แฟรงค์ (Wide Flange) เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน (Hot Rolled Structural Steel) ที่มีหน้าตัดคล้ายตัว “H” โดยมีลักษณะเด่นคือ ปีก (Flange) ที่กว้างและขนานกัน ตลอดความยาวของเหล็ก ซึ่งแตกต่างจากเหล็กเอชบีมและไอบีมในรุ่นเก่า ที่ปีกมักจะสอบหรือไม่ขนานกัน คุณสมบัติสำคัญของเหล็กไวด์แฟรงค์คือ:
- ความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษ: ด้วยพื้นที่หน้าตัดที่กว้างกว่าและรูปทรงที่สมมาตร ทำให้เหล็กไวด์แฟรงค์มีความสามารถในการรับแรงดัด (Bending Strength) และแรงเฉือน (Shear Strength) ได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับโครงสร้างที่ต้องรับน้ำหนักมาก และต้องการความมั่นคงสูง
- รับแรงอัดและแรงดึงอย่างสมดุล: รูปทรงตัว H ที่มีปีกกว้างเท่ากันช่วยให้กระจายแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นวัสดุที่ยอดเยี่ยมสำหรับทั้งเสาและคานหลัก
- ประหยัดและคุ้มค่า: เมื่อเทียบกับความสามารถในการรับแรง เหล็กไวด์แฟรงค์มักจะมีน้ำหนักที่เหมาะสม ทำให้ช่วยลดต้นทุนในการขนส่ง ติดตั้ง และค่าฐานรากของอาคารลงได้
- ลดเวลาในการก่อสร้าง: การใช้เหล็กไวด์แฟรงค์ที่เป็นเหล็กสำเร็จรูป ทำให้งานโครงสร้างสามารถประกอบ เชื่อม หรือติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาและแรงงานในโครงการขนาดใหญ่
- เชื่อมต่อได้ง่าย: ด้วยปีกที่ขนานกัน ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างชิ้นส่วนทำได้ง่ายและแม่นยำยิ่งขึ้น
- หลากหลายขนาด: มีขนาดและความหนาให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับการออกแบบโครงสร้างและข้อกำหนดทางวิศวกรรมที่แตกต่างกัน
การใช้งานเหล็กไวด์แฟรงค์ในงานก่อสร้างและอุตสาหกรรม
ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและประสิทธิภาพสูง ทำให้เหล็กไวด์แฟรงค์เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในงานที่ต้องการความแข็งแรงและความรวดเร็ว:
- โครงสร้างอาคารสูงและขนาดใหญ่: ใช้เป็นเสาและคานหลักของอาคารสำนักงาน, คอนโดมิเนียม, โรงแรม, ศูนย์การค้า, และสนามกีฬา
- โครงสร้างโรงงานและโกดังสินค้า: เป็นวัสดุหลักในการสร้างโครงสร้างโรงงานอุตสาหกรรม, โกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่, และโครงหลังคาที่ต้องการช่วงกว้าง
- โครงสร้างสะพานและโครงสร้างพื้นฐาน: ใช้ในงานก่อสร้างสะพาน, โครงสร้างยกระดับ, และโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานสูง
- โครงสร้างรองรับเครื่องจักร: ใช้เป็นโครงสร้างรองรับเครื่องจักรขนาดใหญ่, แท่นขุดเจาะ, หรือโครงสร้างสำหรับเครนและระบบลำเลียง
- งานโครงสร้างพิเศษ: สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโครงสร้างเหล็กรูปพรรณอื่นๆ ที่ต้องการความแข็งแรงและรวดเร็วในการก่อสร้าง
ทำไมคุณภาพของเหล็กไวด์แฟรงค์จึงสำคัญที่สุดต่อความปลอดภัยของโครงสร้าง?
การเลือกใช้เหล็กไวด์แฟรงค์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ถูกต้องตามสเปก อาจนำมาซึ่งผลกระทบที่ร้ายแรงและค่าใช้จ่ายมหาศาล:
- ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยร้ายแรง: เหล็กไวด์แฟรงค์คุณภาพต่ำอาจมีคุณสมบัติทางเคมีหรือทางกลที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น มีความแข็งแรงไม่ถึงเกณฑ์ มีตำหนิภายใน หรือโครงสร้างบิดเบี้ยว ซึ่งจะลดความสามารถในการรับแรงอย่างรุนแรง เสี่ยงต่อการแตกร้าว ทรุดตัว หรือการพังทลายของโครงสร้างขนาดใหญ่ในที่สุด
- อายุการใช้งานที่สั้นลง: เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานจะเสื่อมสภาพ เกิดสนิม หรือเกิดการล้า (Fatigue) ได้เร็วกว่าปกติ ทำให้โครงสร้างมีอายุการใช้งานสั้นลง และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเสริมความแข็งแรงมหาศาล
- ความคลาดเคลื่อนในการก่อสร้าง: หากเหล็กไวด์แฟรงค์ไม่ได้ขนาดหรือมีรูปทรงที่บิดเบี้ยว จะส่งผลให้การติดตั้งทำได้ยาก เกิดความคลาดเคลื่อนในโครงสร้าง ส่งผลต่อความแม่นยำของงาน และอาจต้องแก้ไขซึ่งเสียเวลาและค่าใช้จ่ายอย่างมาก
- ผลกระทบทางกฎหมายและชื่อเสียง: การใช้เหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานในโครงการขนาดใหญ่อาจนำมาซึ่งปัญหาทางกฎหมายอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของผู้รับเหมาและเจ้าของโครงการ
ดังนั้น การลงทุนกับเหล็กไวด์แฟรงค์คุณภาพสูงและได้มาตรฐานจึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ความยั่งยืน และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง