เหล็กตะกร้อ

สอบถามรายละเอียด และขอใบเสนอราคา
ทีมงานพร้อมให้บริการทุกวัน

02-543-2544 094-548-9166 065-993-2879 Line @vipasteel

เหล็กตะกร้อ

เหล็กตะกร้อ (Stirrups) คือส่วนประกอบสำคัญที่มองไม่เห็น แต่มีบทบาทอย่างยิ่งในการช่วยยึดเหล็กเส้นหลักให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดคือช่วยเพิ่มความสามารถในการรับแรงเฉือน (Shear Force) ป้องกันการแตกร้าวแบบเฉือน และเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างโดยรวม เหล็กตะกร้อที่ดีต้องผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง มีขนาดและรูปร่างที่ได้มาตรฐาน และมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อแรงดึงและแรงเฉือน การเลือกใช้เหล็กตะกร้อที่ถูกต้องตามการออกแบบทางวิศวกรรม จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้โครงสร้างแข็งแรง ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานยาวนาน และนี่คือสิ่งที่ วิภาค้าเหล็ก มุ่งมั่นที่จะส่งมอบเหล็กตะกร้อคุณภาพเยี่ยมให้กับลูกค้าทุกราย

เหล็กตะกร้อ

ขนาด ราคาขาย
40 x 40 496
50 x 50 736

หมายเหตุ :

  • ราคา ณ วันที่ 1 มิถุนายน 2568
  • ราคาบนเว็บไซต์เป็นสกุล บาทไทย (THB)

*ราคาอาจะมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาติดต่อแอดมินเพื่อเช็คราคาสินค้า*

คุณสมบัติ

เหล็กตะกร้อ คือเหล็กเส้นกลม หรือเหล็กเส้นข้ออ้อย ที่ถูกดัดให้เป็นรูปวงปิด เช่น สี่เหลี่ยม วงกลม หรือเกือกม้า โดยมีปลายงอเข้าหากัน มักใช้รัดรอบเหล็กเส้นหลักในแนวตั้ง หรือแนวนอน มีคุณสมบัติและประโยชน์เด่นดังนี้:

  • รับแรงเฉือน (Shear Reinforcement): นี่คือหน้าที่หลักของเหล็กตะกร้อ ในโครงสร้าง เช่น คานและเสา จะมีแรงเฉือนเกิดขึ้นเมื่อรับน้ำหนัก เหล็กตะกร้อจะช่วยต้านทานแรงเฉือนนี้ ป้องกันไม่ให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าวในแนวเฉียง (Diagonal Cracks)
  • ยึดเหล็กเส้นหลักให้อยู่กับที่: เหล็กตะกร้อช่วยยึดเหล็กเส้นหลัก (Main Reinforcement) ในคานและเสา ให้อยู่ในตำแหน่งที่แม่นยำตามการออกแบบ ป้องกันไม่ให้เหล็กเส้นหลักเกิดการโก่งตัวออกด้านข้าง (Buckling) เมื่อรับแรงอัด
  • เสริมความเหนียวของโครงสร้าง (Ductility): เมื่อโครงสร้างรับน้ำหนักเกินกำลัง แรงเฉือนจะส่งผลให้คอนกรีตเกิดการแตกร้าว หากไม่มีเหล็กตะกร้อ โครงสร้างอาจพังทลายอย่างกะทันหัน แต่เหล็กตะกร้อจะช่วยยึดคอนกรีตที่แตกร้าวไว้ ทำให้โครงสร้างยังคงรักษารูปทรงไว้ได้ระดับหนึ่ง ให้สัญญาณเตือนก่อนการวิบัติ (Ductile Failure)
  • ควบคุมขนาดรอยร้าว: ช่วยควบคุมการขยายตัวของรอยร้าวที่เกิดขึ้นในคอนกรีต ทำให้รอยร้าวไม่ขยายตัวกว้างเกินไป รักษาความสมบูรณ์ของโครงสร้าง
  • ผลิตจากเหล็กมาตรฐาน: โดยทั่วไปผลิตจากเหล็กเส้นกลม (SR24) หรือเหล็กเส้นข้ออ้อย (SD30, SD40) ที่ได้มาตรฐาน มอก. ผ่านกระบวนการดัดโค้งด้วยเครื่องจักร เพื่อให้ได้ขนาดและรูปร่างที่แม่นยำ

การใช้งานเหล็กตะกร้อในงานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก

เหล็กตะกร้อเป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแทบทุกชนิด:

  • เสา (Columns): ใช้รัดรอบเหล็กเส้นหลักในแนวตั้ง เพื่อป้องกันการโก่งตัวของเหล็กเมื่อเสารับแรงอัด และช่วยรับแรงเฉือน
  • คาน (Beams): ใช้รัดรอบเหล็กเส้นหลักในแนวนอน เพื่อรับแรงเฉือนที่เกิดขึ้นตามแนวยาวของคาน และช่วยยึดเหล็กบนและเหล็กล่างให้อยู่กับที่
  • ฐานราก (Footings): อาจใช้ในบางกรณีเพื่อเสริมการรับแรงเฉือน หรือยึดเหล็กเสริมในฐานราก
  • ผนังรับแรงเฉือน (Shear Walls): ใช้เสริมแรงในผนังที่ออกแบบมารับแรงด้านข้าง เช่น แรงลม หรือแรงแผ่นดินไหว

ทำไมคุณภาพของเหล็กตะกร้อจึงสำคัญที่สุดต่อความปลอดภัยของอาคาร?

การเลือกใช้เหล็กตะกร้อที่ไม่ได้มาตรฐาน ขนาดไม่ถูกต้อง หรือมีคุณภาพต่ำ อาจนำมาซึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบถึงความปลอดภัยและค่าใช้จ่ายในระยะยาว:

  • โครงสร้างวิบัติจากการเฉือน: หากเหล็กตะกร้อไม่แข็งแรงพอ หรือมีระยะห่างไม่ถูกต้องตามการออกแบบ โครงสร้าง เช่น คานหรือเสา อาจเกิดการแตกร้าวแบบเฉือนอย่างกะทันหันและรุนแรง ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตและทรัพย์สิน
  • เหล็กหลักโก่งตัว: หากเหล็กตะกร้อไม่สามารถยึดเหล็กเส้นหลักให้อยู่กับที่ได้ เมื่อเสารับแรงอัดมากๆ เหล็กเส้นหลักอาจเกิดการโก่งตัวออกด้านข้าง ทำให้ความสามารถในการรับน้ำหนักลดลงอย่างมาก
  • ความเหนียวลดลง: โครงสร้างที่ขาดเหล็กตะกร้อ หรือใช้เหล็กตะกร้อคุณภาพต่ำ จะขาดความเหนียว เมื่อรับน้ำหนักเกินกำลัง อาจเกิดการพังทลายอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือน
  • การแตกร้าวและการเสื่อมสภาพ: การที่ไม่สามารถควบคุมรอยร้าวได้ดี จะทำให้โครงสร้างเสื่อมสภาพเร็วขึ้น และอาจส่งผลให้ความชื้นเข้าไปกัดกร่อนเหล็กเสริมภายในได้ง่าย
  • ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม: การแก้ไขโครงสร้างที่เสียหายจากการใช้เหล็กตะกร้อที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก
  • ผลกระทบทางกฎหมายและชื่อเสียง: การละเลยคุณภาพในจุดสำคัญของโครงสร้างอาจนำมาซึ่งการละเมิดกฎหมายควบคุมอาคาร และส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชื่อเสียงของวิศวกร ผู้รับเหมา และเจ้าของโครงการ

ดังนั้น การลงทุนกับเหล็กตะกร้อคุณภาพสูงและได้มาตรฐาน จึงเป็นการลงทุนเพื่อความปลอดภัย ความทนทาน และความคุ้มค่าในระยะยาวอย่างแท้จริง